
ไชโย-โอฮา!

เข้าสู่ปีที่3แล้วสำหรับสัญญาร่วมไทย-มาเลเซียกับงานวิจัยและอนุรักษ์นกเงือกที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลันจัก, รัฐซาราวักบนเกาะบอร์เนียว งานของเราเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้น สำหรับปีแรกๆงานส่วนใหญ่คือการเทรนทีมงานป่าไม้ของมาเลเซียซึ่งทีมงานของเขากับผู้ร่วมงานชาวพื้นเมืองจากเผ่าอีบันก็ให้ความสนใจและพร้อมที่จะเรียนรู้เป็นอย่างดี ด้วยการทำงานที่ยากลำบากแต่ทุกคนก็อดทนและตั้งใจ แม้ว่าการอนุรักษ์จะสำเร็จลุล่วงตามแผนการที่วางไว้หรือไม่ก็ตามสิ่งที่ผมทราบคือพวกเขารักนกเงือกและอยากอนุรักษ์ไว้ ไม่มีผู้ร่วมงานคนใดยินดีหรือพอใจกับการสัมปทานไม้นักแต่พวกเขาต้องจำยอมเพราะเป็นรายได้หลักของรัฐบาลและชาวบ้านมีงานทำ ผมถามพวกเขาว่าทำไมถึงไม่ต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า เขาบอกว่าเป็นเรื่องยากเพราะบรรดาหัวหน้าเผ่าหรือผู้นำของเขารับเงินมาแล้ว พวกเขาได้แต่นิ่งและพูดไม่ได้รัฐบาลให้พวกเขาล่าสัตว์ได้อย่างถูกกฏหมายแต่ในความจริงแม้ไม่อนุญาตพวกเขาก็ทำกันอยู่แล้ว”ป่าและสัตว์ป่าเป็นของเรามานานเพราะบ้านของเราอยู่ที่นี่กินกันจนตายก็ไม่มีวันหมดสิ้น” ในแม่น้ำมีปลาในป่ามีหมูผักสมุนไพรเหลือเฟือรวมถึงการสกัดน้ำหวานจากเกสรของดอกปาล์มเพื่อนำมาทำไวน์พื้นบ้านไว้สังสรรค์ในยามพักผ่อน
บางครั้งในวันหยุดพวกเราก็ไปร่วมสังสรรค์ด้วย พวกเขาอยู่กับธรรมชาติเราจึงเห็นถึงความมีน้ำใจไปที่บ้านใครเขาต้อนรับเราอย่างดี ซึ่งผมสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตรและรู้สึกประทับใจจึงต้องบันทึกไว้ในความทรงจำว่าแล้วก็ยกแก้วไวน์ชูขึ้นและพูดพร้อมกัน..”โอฮา! “มีความหมายว่า”ไชโย!”
วันนี้เราอาจร่าเริงและดื่มกินอย่างมีความสุขแต่อนาคตข้างหน้าผมยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับป่าผื
นนี้หากยังไม่มีแผนการอนุรักษ์ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างระมัดระวัง ป่าฝนที่อุดมสมบูรณ์และสวยงามอาจเหลือเพียงเรื่องเล่าจากเฟสบุ๊ค!